รถโฟร์วีลสีดำเงาแล่นผ่านธรรมชาติซึ่งกำลังสร้างสรรค์ความงดงามให้กับพื้นที่ชนบท
ด้วยภาพขุนเขาตั้งตระหง่านราวท้าอำนาจแห่งท้องฟ้าถูกแสงสีแดงส้มของยามตะวันรอน ทาบทามาบนยอดสูงที่ปกคลุมด้วยกำมะหยี่สีเขียว
ภาพตระการตาเบื้องหน้าทำให้หญิงสาววงหน้าเรียวล้อมกรอบด้วยผมยาวเป็นลอน
ปรากฏนัยน์ตาเปล่งประกายความหวาน
ขณะเฝ้ามองภูมิทัศน์อันงดงามแห่งขุนเขาด้วยความหลงใหล
“คาดหวังอะไรกับป่าเขาแห่งนี้อยู่หรือไงรัญชิดา”
เสียงห้าวดังแทรกบรรยากาศอันเงียบสงบ
รัญชิดา เกียรติกุล สาวสวยร่างเล็กสมส่วน วัย 23
ปี สวมชุดกระโปรงสีเหลืองอ่อนขับผิวขาวงามผุดผาด ต้องหลุดจากภวังค์ธรรมชาติกลับมานั่งตัวตรง
เลิกสนใจภูมิทัศน์ตระการตาโดยทันที ก่อนจะคิดค่อนขอดตอบกลับเขาในใจ‘จะให้เธอคาดหวังอะไรกับโชคชะตาที่กำหนดให้เธอต้องมาถูกจองจำชีวิตอยู่ที่นี่’
นัยน์ตาอ่อนหวานค่อย ๆ ชำเลืองไปทางสารถีหนุ่ม..ปฐพี
ปานเทวา เจ้าของไร่องุ่นชื่อดังวัย 36 ปี ซึ่งบัดนี้เธอได้กลายมาเป็นภรรยาจำเลยของเขาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
หญิงสาวพินิจใบหน้าคมเข้มหล่อเหลามีไรเคราเขียวจาง ๆ และเพ่งพิศชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลลายทางกับกางเกงยีนสีน้ำเงินเข้ม
ก่อนลงมติในใจว่าชุดที่เขาสวมใส่ยิ่งเสริมบุคลิกให้เขาดูบึกบึนสมชายชาตรีที่มีวิถีชาวไร่อยู่ในชนบท
“อีกไม่นานเราจะเข้าเขตไร่ปานเทวา”
ชายหนุ่มเปรยขึ้น
“ค่ะ” เธอตอบรับเสียงแผ่ว เพราะไร้อารมณ์จะสนทนาด้วย
โดยเฉพาะเมื่อต้องทนฟังคำพูดแดกดัน
“ตอบรับสั้น ๆ เหมือนยากที่จะทำใจเหลือเกินนะ”
ถ้อยคำนี้ทำให้รัญชิดาชำเลืองมองริมฝีปากหนา ที่ขบเม้มราวใช้ความคิดตลอดเวลาด้วยความขัดใจ
ก่อนหน้าเธอทำใจยอมรับการเปลี่ยนแปลงชีวิตมาเป็นอย่างดี
แต่นาทีนี้เธอแทบกลั้นโทสะไว้ไม่ได้ เมื่อต้องมาผจญน้ำเสียงและถ้อยคำบ่งบอกถึงความดูแคลน
ต่อเมื่อฉุกคิดว่าชีวิตของเธอต้องถูกเขาตีตราเป็นเจ้าของอย่างถูกต้องตามกฎหมายเช่นนี้แล้ว
การตอบโต้กันมันไม่มีผลดีอะไร เธอจำต้องยับยั้งชั่งใจ
ซึ่งชะตาชีวิตที่ต้องตกมาเป็นภรรยาทางนิตินัยของเขา
เกิดจากจดหมายฉบับหนึ่ง ที่เขายื่นมาให้ในวันที่ขอพบเธอและมาพร้อมคำกล่าวหา ว่าเธอเป็นต้นเหตุให้น้องชายของเขา
ที่กำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งในเม็ดเลือดเสียใจ และจากเขาไปเร็วกว่าที่ควร
‘ผู้ชายอย่างคุณไม่คู่ควรกับฉันหรอกค่ะ เลิกแอบมองฉันเสียที
เพราะมันน่ารำคาญ!’
ลายมือในจดหมาย รัญชิดาจำได้ดีว่าเป็น..ลายมือของใคร
เธอเข้าใจว่าการกระทำนี้เป็นความหวังดี
ที่มุ่งหวังเพียงให้ชายหนุ่มผู้นั้นเลิกแอบมองเธอ โดย..ผู้หวังดี ไม่รู้เลยว่าเพียงข้อความสั้น
ๆ แต่ได้ส่งผลให้ชายหนุ่มนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมที่ชื่อ ปรเมศร์ ปานเทวา ตายด้วยหัวใจสลาย
และเหตุการณ์ครั้งนี้กลายเป็นหนี้แค้นในใจของผู้เป็นพี่ชาย
เหตุเพราะจดหมายฉบับหนึ่ง
ชีวิตเธอจึงพบกับการเปลี่ยนแปลง..ในวันนั้นปฐพีเรียกร้องให้เธอชดใช้หนี้หัวใจ
ด้วยการยื่นเงื่อนไขเรื่องหนี้สินของครอบครัวแลกกับอิสรภาพ
รัญชิดาปรารถนาให้เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดจากจดหมายฉบับนั้นจบลงด้วยดี
อีกทั้งเพื่อเงินที่จะใช้ไถ่ถอนบ้านกลับคืนมาในเมื่อธนาคารได้ขีดเส้นตายให้กับการผ่อนผันหนี้สินแล้ว
เธอตัดสินใจจดทะเบียนสมรสตามเงื่อนไขของปฐพี
ท่ามกลางคำถามและความไม่เข้าใจของแม่ประภาผู้เป็นมารดาเลี้ยงและไขนภาผู้เป็นน้องสาวต่างมารดา..
ว่าเหตุใดเธอจึงยอมเป็นภรรยาของชายหนุ่มที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย
เธอให้เหตุผลกับบุคคลทั้งสองว่าไม่อยากให้อัคนีต้องมารับภาระหนี้สินของครอบครัว
อยากเปิดโอกาสให้เขาได้พบกับหญิงสาวมีคุณสมบัติพร้อมนำพาชีวิตคู่เดินไปสู่อนาคตที่งดงามร่วมกัน
มากกว่ามาปักใจกับผู้หญิงมีแต่ตัว ไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรีเช่นเธอ
หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบา ๆ
เมื่อนึกถึงแววตาอ่อนโยนของอัคนี ช่างแตกต่างจากแววตาแข็งกร้าวของชายอีกคนที่ทำราวเธอเป็นนักโทษฉกรรจ์
ตั้งแต่สิ้นสุดการลงนามไม่มีพิธีการหรือแม้แต่สักขีพยานญาติผู้ใหญ่ มีเพียงนายทะเบียนผู้ต้องเป็นพยานตามหน้าที่
เขาก็ตั้งท่าบงการชีวิตเธอทันที
“ทำสีหน้าให้ดีหน่อยสิ
ทำยังกับว่าการเป็นเมียเจ้าของไร่ในชนบทเป็นเรื่องขมขื่นใจไปได้”
เสียงห้วนติดรำคาญเอ่ยขึ้นอีก
คราวนี้รัญชิดาไม่อาจนิ่งเฉย เพราะเห็นเขาคอยฟาดฟันเธอด้วยวาจาเผ็ดร้อนตลอดเวลา ในเมื่อเธอต้องมาอยู่กับเขาซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขทุกอย่าง
เขายังจะอยากได้อะไรจากเธออีก รัญชิดามองสบดวงตาคมด้วยอารมณ์คุกรุ่น ก่อนพูดยอกย้อนกลับไป
“ผู้หญิงทุกคนที่เจอชะตาเล่นตลกแบบฉัน
ก็คงมีสีหน้าไม่ต่างกันนักหรอกค่ะ”
แม้ปฐพีจะพอใจกับปฏิกิริยาโต้ตอบจากคนนิ่งเงียบมานาน
แต่วูบหนึ่งเขาอดฉุนไม่ได้เมื่อได้ยินคำว่า ชะตาเล่นตลก
“ชะตาเล่นตลกหรือ?”
เสียงแข็งของปฐพีเต็มไปด้วยอารมณ์คุกรุ่นเช่นกัน เมื่อได้ยินหญิงสาวพูดถึงชะตาเล่นตลกกับตนเอง
แล้วชะตาชีวิตน้องชายของเขาที่ถูกเจ้าหล่อนลิขิตให้พบกับความตายล่ะ
“หึ ก็คงตลกจริง ๆ อย่างเธอว่า เพราะจู่ ๆ นางฟ้าก็ตกสวรรค์
ต้องมาชดใช้หนี้กรรมกับสามีชนบท”
“ช่างน่าอดสูด้วยสินะคะ
เพราะฉันต้องมาอยู่ชดใช้หนี้กรรมที่เกิดจากความรักที่น่าสมเพชโดยยังไม่ทันตั้งตัว”
รัญชิดาพูดย้อนแบบไม่ทันได้คิด ‘ความรักที่น่าสมเพช ฉันพูดไปได้ไงนี่’
พูดออกไปแล้วเธอแทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองนัก
เพราะไม่เพียงใบหน้าขึงตึงจะโกรธยิ่งกว่าเดิม
แต่ท่าทางคุกคามของเขายังบ่งบอกว่าเธอกำลังจะได้รับผลอย่างใดอย่างหนึ่งย้อนกลับมาแน่นอน
“ความรักที่น่าสมเพชงั้นเรอะ!” ปฐพีเบี่ยงรถหลบจอดข้างทาง
ก่อนจะปล่อยมือจากพวงมาลัยและหันมากระชากต้นแขนเรียว ออกแรงเพียงนิดร่างเล็กกว่าก็ติดมือให้ได้เผชิญหน้ากัน
“คุณปฐพี!” เธอกรีดร้องเรียกชื่อของเขา
เมื่อท่อนแขนถูกมือหนาคว้าตะปบลงมาอย่างหนัก
“เจ็บ.เจ็บนะคะ ปล่อย..”
เนื้อนวลปรากฏรอยแดงตามแรงกดของนิ้วแกร่ง
ทำให้นาทีนั้นรัญชิดาคิดได้ว่าคำพูดที่เปล่งออกไป มันกลายเป็นผลร้ายต่อเธออย่างมหาศาล
เพราะเพียงร่างเธอปะทะกับอกกว้าง ริมฝีปากอิ่มก็ถูกเขาบดขยี้..! ‘อื้อ..’ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง
สองมือพยายามดิ้นรนผลักไสร่างใหญ่ ที่ทำให้เธอแทบขาดอากาศหายใจถ้าเขาไม่ถอนจูบร้ายนั้นออกไปเสียก่อน
“นี่คือการเตือน จำไว้รัญชิดา ชีวิตที่เหลือของเธอจะต้องอยู่กับนายเล็กที่นี่
อยู่กับความรักของเขา ที่เธอดูแคลนว่ามันน่าสมเพช!” ปฐพีกล่าวเสียงห้วนดัง
และแม้จะเห็นริมฝีปากอิ่มบวมช้ำเป็นสีแดงก่ำ ชายหนุ่มก็ไม่คิดสงสาร
ในเมื่อมันคือโทษทัณฑ์ที่อีกฝ่ายกล้ามาลองดีกับเขา
“คุณ!” รัญชิดาตกตะลึงกับจูบแรกที่เธอเคยปรารถนาจะสัมผัสมันจากชายคนรักด้วยใจอ่อนหวาน
แต่มันกลับกลายเป็นจูบพิฆาตประหัตประหารจากชายหนุ่มที่มีใจขุ่นแค้นในตัวเธอ
..เจ็บเหลือเกิน หญิงสาวโอดครวญด้วยความเจ็บปวด
หลังยกมือขึ้นจับริมฝีปากแล้วสัมผัสได้ถึงความบอบช้ำของมัน ดวงตาเริ่มมีน้ำตาคลอแต่เธอจะไม่ยอมให้มันหลั่งไหล
เพราะเธอจะไม่ยอมอ่อนแอต่อหน้าผู้ชายร้ายกาจคนนี้ มือเรียวเลื่อนลงแล้วกำแน่น เก็บคำพูดทั้งหมดทั้งมวลเพราะมันไม่ได้ช่วยอะไร
รังแต่จะทำให้เธอได้พบความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเท่านั้น
โดยเฉพาะเวลาที่ชายตรงหน้ากำลังถลึงตาขึงโกรธ มันยิ่งทำให้เธอนึกกลัวเขาจับใจ
นาทีต่อมาเสียงหญิงสาวหวีดร้องอีกครั้ง
เมื่อร่างของตนถูกแรงมหาศาลผลักไสกระแทกพนักพิง ‘โอ้ย!’ ส่งผลให้ทั้งร่างเจ็บร้าวไปหมด
“ฉันขอย้ำนะรัญชิดา
ชีวิตที่เหลือของเธอมันขึ้นอยู่กับฉัน ฉะนั้นอย่าได้พูดพล่อย ๆ ให้ฉันไม่พอใจอีก”
คำขู่ของปฐพีบ่งบอกถึงบทลงโทษส่งให้ร่างบอบบางกว่าอยู่ในอากัปกิริยานิ่งงัน
ก่อเกิดความสะใจ
ดวงตาคมวาวจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสวยใสซึ่งกำลังเปล่งประกายความตื่นตระหนก
พลันนึกอยากควักดวงตาแสนเสน่ห์นั่น
เพราะความมีเสน่ห์ของมันดุจเพชฌฆาตที่พรากชีวิตน้องชายของเขาไป เพียงเพราะเผลอใจไปหลงใหลมัน
ปรเมศร์แอบหลงใหลผู้หญิงคนนี้มาก ซึ่งปฐพีรู้เรื่องนี้มาโดยตลอด
เพราะแม้เขาจะเดินทางไปศึกษาสูตรไวน์ที่ประเทศฝรั่งเศส แต่ปรเมศร์ก็ส่งอีเมลเขียนเล่าเรื่องของเจ้าหล่อนราวกับเป็นบันทึกประจำวัน
บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงในฝันคนนี้ซึ่งก็ทำให้เขานึกเป็นห่วงน้องมาก
ด้วยไม่อยากให้คนป่วยพบกับความผิดหวังเข้าไปอีก
แต่เขาก็ไม่อาจห้ามความรักของน้องชายได้
แม้เป็นเพียงการแอบรักเขาข้างเดียว เพราะเห็นว่าความรักครั้งนี้ทำให้ปรเมศร์มีความสุข
แต่แล้วสิ่งที่เรียกว่า..ความรัก! กลับมาทำร้ายตัวปรเมศร์เอง
เมื่อปรเมศร์ได้รับจดหมายลับ จดหมายฉบับนั้นดุจจดหมายมรณะ
เพราะมันได้กระชากหัวใจของปรเมศร์ออกจากร่าง ฉีกทึ้งจนขาดวิ่น ด้วยเหตุผลว่าปรเมศร์เป็นผู้ชายที่ไม่มีคุณสมบัติคู่ควร!
“ฉันแลกเธอมาด้วยเงินเป็นล้าน
ฉะนั้นฉันไม่สนใจว่าเธอจะรู้สึกยังไง แต่ขอให้เธอจำใส่ใจให้ดี
เสน่ห์ร้อนร้ายของเธอมันจะยุติลงที่นี่
กับหนุ่มชาวไร่ที่เธอฟาดฟันชีวิตเขาด้วยจดหมายบ้า ๆ นั่น!”
รัญชิดาพยายามปลอบใจให้เข้มแข็ง เก็บกลืนความขมขื่นลงไป
ถึงน้อยใจฟ้าที่ลิขิตให้มาพบผู้ชายใจร้ายคนนี้สักแค่ไหน เธอก็ยอมรับว่าไม่อาจปฏิเสธจำนวนเงินที่เขาหยิบยื่นมาให้
“รัญชิดา ฟังให้ดีนะ
ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อน้องชายของฉัน นายเล็กจะต้องได้พบกับความสมหวัง”
ปฐพีพูดจบ เขาส่งสายตาคมดุขณะคิดถึงเหตุผลที่ทำให้เขาต้องมาพัวพันกับหญิงสาว
นั่นเพราะผู้หญิงคนนี้ทำให้ความรักของปรเมศร์เป็นสิ่งไร้ค่า ลดทอนวันเวลาที่ปรเมศร์จะมีชีวิตอยู่สั้นลง
ไม่ว่ารัญชิดาจะคิดถึงเรื่องฟ้าลิขิตชะตาตัวเองไว้เช่นไร
แต่เขาก็ถือว่าได้ทำตามหัวใจร่ำร้องของปรเมศร์ ซึ่งนอนรอความหวังอยู่ในเส้นทางข้างหน้าแล้ว
เพราะความตั้งใจนี้เป็นความสุขเดียวจะมอบให้กับปรเมศร์ได้ แม้ว่าผู้เป็นน้องชายจะจากโลกใบนี้ไปแล้วก็ตาม
โฟร์วีลเคลื่อนตัวอีกครั้งเตรียมพุ่งทะยานไปตามเส้นทางเดิม
ชั่วขณะรถเก๋งสีดำและรถกระบะขับตามอีกคันได้ชะลอตัวผ่านไปช้า ๆ ‘ไอ้เมธี’ ปฐพีมองผ่านกระจกเคลือบสีชาของรถคันสีดำ เห็นใบหน้าของคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง
จากนั้นสายตาทั้งคู่จ้องจับสังเกตกันมันเต็มไปด้วยแววอาฆาต!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น